shopup.com

articleไฮโดรมิเตอร์ ( Hydrometer )

ไฮโดรมิเตอร์ ( Hydrometer )

ไฮโดรมิเตอร์ (Hydrometer) คือ เครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้สำหรับวัดความหนาแน่น (Density) หรือความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity) ของของเหลว โดยอาศัยหลักการลอยตัวของวัตถุ ซึ่งเป็นหลักการทางฟิสิกส์ที่สำคัญในการศึกษาคุณสมบัติของสารต่างๆ การวัดความหนาแน่นของของเหลวมีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม เคมี และปิโตรเลียม เนื่องจากความหนาแน่นเป็นตัวบ่งชี้ถึงองค์ประกอบและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ความสำคัญของไฮโดรมิเตอร์

การควบคุมคุณภาพ

  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม: ใช้ตรวจสอบความเข้มข้นของน้ำตาลในน้ำอัดลม, ความบริสุทธิ์ของน้ำผลไม้, หรือปริมาณไขมันในนม
  • อุตสาหกรรมเคมี: ใช้ตรวจสอบความเข้มข้นของสารละลายต่างๆ เช่น กรด ด่าง หรือสารละลายเคมีอื่นๆ
  • อุตสาหกรรมปิโตรเลียม: ใช้ตรวจสอบความหนาแน่นของน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ

การควบคุมกระบวนการผลิต

  • อุตสาหกรรมการผลิต: ใช้ในการควบคุมความเข้มข้นของสารละลายที่ใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ เช่น การชุบโลหะ, การผลิตกระดาษ
  • อุตสาหกรรมยา: ใช้ในการควบคุมคุณภาพของยาและสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยา

การวิเคราะห์ปัญหา

  • การบำรุงรักษาเครื่องจักร: ใช้ตรวจสอบความหนาแน่นของน้ำหล่อเย็นในเครื่องยนต์ เพื่อตรวจสอบสภาพของระบบระบายความร้อน
  • การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม: ใช้ตรวจสอบความหนาแน่นของน้ำเสีย เพื่อประเมินระดับมลพิษ

การวิจัยและพัฒนา

  • ใช้ในการวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ๆ และกระบวนการผลิตใหม่ๆ

หลักการทำงานของไฮโดรมิเตอร์ อาศัยหลักการทางฟิสิกส์ที่ว่า "วัตถุที่ลอยอยู่ในของเหลว จะมีแรงลอยตัวเท่ากับน้ำหนักของของเหลวที่วัตถุนั้นแทนที่

  • แรงลอยตัว: เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์จุ่มลงในของเหลว แรงลอยตัวจะดันไฮโดรมิเตอร์ให้ลอยขึ้น จนกระทั่งแรงลอยตัวเท่ากับน้ำหนักของไฮโดรมิเตอร์
  • ความหนาแน่นของของเหลว: ของเหลวที่มีความหนาแน่นสูง จะมีแรงดันขึ้นน้อยกว่า ทำให้ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปลึก
  • ของเหลวหนาแน่นสูง: ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปน้อย ค่าที่อ่านได้สูง
  • ของเหลวหนาแน่นต่ำ: ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปลึก ค่าที่อ่านได้ต่ำ
  • การอ่านค่า: ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์ลอยตัวอยู่ในของเหลว จะตรงกับค่าความหนาแน่นของของเหลวนั้นบนเกล็ดแบ่งระดับ

ประเภทของไฮโดรมิเตอร์

1. บอมเมสเกล (Baume Scale)

บอมเมสเกล หรือ โบเม่สเกล เป็นมาตราที่ใช้ในการวัดความหนาแน่นของของเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเคมีและการผลิต

ใช้กับไฮโดรมิเตอร์: บอมเมสเกลจะปรากฏอยู่บนไฮโดรมิเตอร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ไฮโดรมิเตอร์บอมเม (Baume hydrometer)

วัตถุประสงค์: ใช้ในการควบคุมคุณภาพของสารละลาย, ตรวจสอบความเข้มข้นของสารเคมี และใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ

2. บริกซ์สเกล (Brix Scale)

บริกซ์สเกล (Brix Scale) เป็นมาตราส่วนที่ใช้ในการวัดปริมาณน้ำตาลที่ละลายอยู่ในน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูโครส (sucrose) หรือน้ำตาลทราย ซึ่งมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เช่น การผลิตน้ำผลไม้ ไวน์ และเบียร์ ค่าบริกซ์หนึ่งหน่วย (1 °Bx) หมายถึงมีซูโครส 1 กรัม ละลายอยู่ในน้ำ 100 กรัม

ไฮโดรมิเตอร์บริกซ์ (Brix Hydrometer) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่าบริกซ์ โดยอาศัยหลักการลอยตัวของวัตถุในของเหลว เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์จุ่มลงในสารละลายที่มีน้ำตาล ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปจะบ่งบอกถึงค่าบริกซ์ของสารละลายนั้น

หลักการทำงานของไฮโดรมิเตอร์บริกซ์

  • ความหนาแน่นของสารละลาย: เมื่อมีการละลายน้ำตาลลงในน้ำ ความหนาแน่นของสารละลายจะเพิ่มขึ้น
  • แรงลอยตัว: เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์จุ่มลงในสารละลาย แรงลอยตัวจะดันให้ไฮโดรมิเตอร์ลอยขึ้น
  • ค่าบริกซ์: ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปจะสัมพันธ์กับความหนาแน่นของสารละลาย ซึ่งสามารถอ่านค่าบริกซ์ได้จากเกล็ดที่อยู่บนลำตัวของไฮโดรมิเตอร์

การใช้งานไฮโดรมิเตอร์บริกซ์

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

  • การผลิตน้ำผลไม้: ควบคุมความหวานของน้ำผลไม้
  • การผลิตไวน์และเบียร์: ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลในขั้นตอนการหมัก
  • การผลิตอาหารกระป๋อง: ควบคุมความเข้มข้นของน้ำเชื่อม

การเกษตร

  • วัดปริมาณน้ำตาลในผลไม้

อุตสาหกรรมอื่นๆ

  • เช่น อุตสาหกรรมยา, อุตสาหกรรมเคมี

ข้อดีของการใช้ไฮโดรมิเตอร์บริกซ์

  • ใช้งานง่าย: ไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน
  • ราคาไม่แพง: เปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดค่าบริกซ์ชนิดอื่นๆ
  • พกพาสะดวก: มีขนาดเล็กกระทัดรัด

ข้อจำกัดของการใช้ไฮโดรมิเตอร์บริกซ์

  • ความแม่นยำ: อาจมีความคลาดเคลื่อนได้หากมีสารอื่นละลายอยู่ในสารละลายนอกจากซูโครส
  • ผลกระทบของอุณหภูมิ: อุณหภูมิของสารละลายมีผลต่อความหนาแน่น ดังนั้นควรควบคุมอุณหภูมิให้คงที่
  • ไม่สามารถวัดสารละลายที่มีความขุ่น: ไฮโดรมิเตอร์ไม่สามารถอ่านค่าได้อย่างแม่นยำในสารละลายที่มีความขุ่น

3. ทีแวดเดิลสเกล (Twaddle Scale)

ทีแวดเดิลสเกล (Twaddle Scale) เป็นอีกหนึ่งมาตราที่ใช้ในการวัดความหนาแน่นของของเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของเหลวที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ เช่น กรด ซัลฟิวริก หรือสารละลายเกลือเข้มข้น ไฮโดรมิเตอร์ที่ใช้สเกลนี้เรียกว่า ไฮโดรมิเตอร์ทีแวดเดิล (Twaddle hydrometer)

หลักการทำงาน

หลักการทำงานของไฮโดรมิเตอร์ทีแวดเดิลคล้ายกับไฮโดรมิเตอร์ชนิดอื่นๆ คืออาศัยหลักการลอยตัวของวัตถุในของเหลว เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์ลงในของเหลวที่ต้องการวัด ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปจะบ่งบอกถึงความหนาแน่นของของเหลวนั้น โดยค่าที่อ่านได้จะอยู่ในหน่วยทีแวดเดิล (°Tw)

ความแตกต่างระหว่างทีแวดเดิลสเกลกับสเกลอื่นๆ

  • ช่วงการวัด: ทีแวดเดิลสเกลออกแบบมาเพื่อวัดของเหลวที่มีความหนาแน่นสูงกว่าน้ำ โดยเฉพาะสารละลายที่มีความเข้มข้นสูง
  • การแบ่งสเกล: ทีแวดเดิลสเกลแบ่งช่วงการวัดเป็น 200 ส่วน โดย 1 องศาทีแวดเดิล (1 °Tw) จะเท่ากับความถ่วงจำเพาะเพิ่มขึ้น 0.005 ทำให้การอ่านค่าความหนาแน่นทำได้ง่ายขึ้นสำหรับสารละลายที่มีความหนาแน่นสูง
  • การใช้งาน: ทีแวดเดิลสเกลนิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เช่น อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ

การแปลงค่าทีแวดเดิลเป็นความถ่วงจำเพาะ

เพื่อแปลงค่าทีแวดเดิล (°Tw) เป็นความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity) สามารถใช้สูตรต่อไปนี้:

ความถ่วงจำเพาะ = 1 + (°Tw / 200)

ตัวอย่างเช่น หากอ่านค่าจากไฮโดรมิเตอร์ทีแวดเดิลได้ 10 °Tw ความถ่วงจำเพาะของสารละลายนั้นคือ 1 + (10/200) = 1.05

การใช้งานไฮโดรมิเตอร์ทีแวดเดิล

  • การควบคุมคุณภาพ: ใช้ในการควบคุมคุณภาพของสารละลายที่ใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ เช่น กรด ซัลฟิวริกที่ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
  • การวิเคราะห์สารละลาย: ใช้ในการวิเคราะห์ความเข้มข้นของสารละลายในห้องปฏิบัติการ
  • การควบคุมกระบวนการผลิต: ใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสารละลายที่มีความหนาแน่นสูง

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิของสารละลายมีผลต่อความหนาแน่น ดังนั้นควรควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ก่อนทำการวัด
  • ความสะอาด: ไฮโดรมิเตอร์ต้องสะอาดและแห้งก่อนใช้งาน
  • การสอบเทียบ: ควรสอบเทียบไฮโดรมิเตอร์เป็นประจำเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้อง

4. ทรัลเลสสเกล (Tralles Scale)

ทรัลเลสสเกล (Tralles Scale) เป็นมาตราวัดที่ใช้ในการวัดปริมาณแอลกอฮอล์โดยตรงในของเหลว เช่น ไวน์ เบียร์ และสุรา โดยทั่วไปจะแสดงผลลัพธ์เป็นเปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร (% ABV: Alcohol by Volume) ของแอลกอฮอล์เอทิลในของเหลวนั้น

ไฮโดรมิเตอร์ทรัลเลส (Tralles hydrometer) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่าทรัลเลส โดยอาศัยหลักการลอยตัวของวัตถุในของเหลว เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์จุ่มลงในของเหลวที่มีแอลกอฮอล์ ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์จมลงไปจะบ่งบอกถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในของเหลวนั้น

หลักการทำงาน

  • ความหนาแน่นของของเหลว: เมื่อมีการผสมแอลกอฮอล์ลงในน้ำ ความหนาแน่นของสารละลายจะลดลง เนื่องจากแอลกอฮอล์มีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ
  • แรงลอยตัว: เมื่อนำไฮโดรมิเตอร์จุ่มลงในสารละลาย แรงลอยตัวจะดันให้ไฮโดรมิเตอร์ลอยสูงขึ้น
  • ค่าทรัลเลส: ระดับที่ไฮโดรมิเตอร์ลอยสูงขึ้นจะสัมพันธ์กับปริมาณแอลกอฮอล์ในสารละลาย ซึ่งสามารถอ่านค่าทรัลเลสได้จากเกล็ดที่อยู่บนลำตัวของไฮโดรมิเตอร์

การใช้งานไฮโดรมิเตอร์ทรัลเลส

อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม

  • การผลิตไวน์: ควบคุมกระบวนการหมักและวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในไวน์สำเร็จรูป
  • การผลิตเบียร์: ตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเบียร์
  • การผลิตสุรา: ควบคุมความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในสุราชนิดต่างๆ
  • ห้องปฏิบัติการ: ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวอย่างต่างๆ

ข้อดีของการใช้ไฮโดรมิเตอร์ทรัลเลส

  • ใช้งานง่าย: ไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อน
  • ราคาไม่แพง: เปรียบเทียบกับเครื่องมือวัดปริมาณแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ
  • พกพาสะดวก: มีขนาดเล็กกระทัดรัด

ข้อจำกัดของการใช้ไฮโดรมิเตอร์ทรัลเลส

  • ความแม่นยำ: อาจมีความคลาดเคลื่อนได้หากมีสารอื่นละลายอยู่ในสารละลายนอกจากแอลกอฮอล์และน้ำ
  • ผลกระทบของอุณหภูมิ: อุณหภูมิของสารละลายมีผลต่อความหนาแน่น ดังนั้นควรควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ก่อนทำการวัด
  • ไม่สามารถวัดสารละลายที่มีความขุ่น: ไฮโดรมิเตอร์ไม่สามารถอ่านค่าได้อย่างแม่นยำในสารละลายที่มีความขุ่น

 5. ASTM hydrometer หรือ ไฮโดรมิเตอร์ตามมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) เป็นเครื่องมือวัดความหนาแน่นของของเหลวที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมเพื่อการทดสอบและวัสดุแห่งสหรัฐอเมริกา (ASTM International) มาตรฐานนี้รับรองว่าไฮโดรมิเตอร์ที่ผลิตขึ้นมีความแม่นยำและสามารถเปรียบเทียบผลการวัดได้ทั่วโลก

ความสำคัญของมาตรฐาน ASTM

  • ความแม่นยำ: มาตรฐาน ASTM กำหนดขั้นตอนการผลิตและการสอบเทียบที่เข้มงวด เพื่อให้ได้ไฮโดรมิเตอร์ที่มีความแม่นยำสูง
  • ความสอดคล้อง: ผลการวัดที่ได้จากไฮโดรมิเตอร์ ASTM สามารถเปรียบเทียบกันได้ทั่วโลก เนื่องจากใช้มาตรฐานเดียวกัน
  • ความน่าเชื่อถือ: ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามมาตรฐาน ASTM มักได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ

การใช้งานไฮโดรมิเตอร์ ASTM ไฮโดรมิเตอร์ ASTM ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • อุตสาหกรรมปิโตรเลียม: วัดความหนาแน่นของน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิต
  • อุตสาหกรรมเคมี: วัดความหนาแน่นของสารละลายเคมีต่างๆ
  • อุตสาหกรรมอาหาร: วัดความหนาแน่นของน้ำผลไม้ น้ำเชื่อม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
  • อุตสาหกรรมสิ่งทอ: วัดความหนาแน่นของสารเคมีที่ใช้ในการย้อมและตกแต่งผ้า
  • การวิเคราะห์ดิน: วัดความหนาแน่นของดินและตะกอน

ประเภทของไฮโดรมิเตอร์ ASTM  มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับช่วงการวัดและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เช่น

  • ไฮโดรมิเตอร์สำหรับวัดความหนาแน่นของน้ำมัน: มีช่วงการวัดที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
  • ไฮโดรมิเตอร์สำหรับวัดความหนาแน่นของสารละลายเคมี: มีช่วงการวัดที่ครอบคลุมสารละลายที่มีความหนาแน่นสูง
  • ไฮโดรมิเตอร์สำหรับวิเคราะห์ดิน: ออกแบบมาเพื่อวัดความหนาแน่นของดินและตะกอน

ข้อมูลที่ระบุบนไฮโดรมิเตอร์ ASTM

  • ไฮโดรมิเตอร์ ASTM ที่ผลิตตามมาตรฐานจะระบุข้อมูลต่อไปนี้
  • หมายเลขมาตรฐาน ASTM: ระบุมาตรฐานที่ใช้ในการผลิต
  • ช่วงการวัด: ระบุค่าความหนาแน่นต่ำสุดและสูงสุดที่สามารถวัดได้
  • อุณหภูมิมาตรฐาน: ระบุอุณหภูมิที่ใช้ในการสอบเทียบ
  • ความละเอียด: ระบุความละเอียดในการอ่านค่า
  • วัสดุที่ใช้ผลิต: ระบุวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น แก้ว หรือพลาสติก

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิของของเหลวมีผลต่อความหนาแน่น ควรควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ก่อนทำการวัด
  • ความสะอาด: ไฮโดรมิเตอร์ต้องสะอาดและแห้งก่อนใช้งาน
  • การสอบเทียบ: ควรสอบเทียบไฮโดรมิเตอร์เป็นประจำเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้อง
  • การเลือกใช้: เลือกไฮโดรมิเตอร์ที่เหมาะสมกับชนิดและช่วงของความหนาแน่นของของเหลวที่ต้องการวัด

วิธีการเลือกใช้ไฮโดรมิเตอร์ที่เหมาะสม

การเลือกใช้ไฮโดรมิเตอร์ให้เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนิดของของเหลวที่ต้องการวัดและช่วงของค่าความหนาแน่นที่ต้องการวัด ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อไฮโดรมิเตอร์ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  1. ชนิดของของเหลว ไฮโดรมิเตอร์แต่ละชนิดถูกออกแบบมาสำหรับวัดของเหลวประเภทเฉพาะ
  • ของเหลวใส: เช่น น้ำ น้ำผลไม้
  • ของเหลวขุ่น: เช่น น้ำมันดิบ น้ำเสีย
  • ของเหลวที่มีความหนืดสูง: เช่น น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง
  • ของเหลวที่มีสารแขวนลอย: เช่น น้ำปูนใส
  1. ช่วงของค่าความหนาแน่น
  • ช่วงการวัด: ไฮโดรมิเตอร์แต่ละตัวจะมีช่วงการวัดความหนาแน่นที่แตกต่างกัน เช่น 0.7-1.0, 1.0-1.3 เป็นต้น
  • ความละเอียด: เลือกไฮโดรมิเตอร์ที่มีความละเอียดในการวัดเหมาะสมกับความต้องการ เช่น ต้องการทราบค่าความหนาแน่นละเอียดถึงทศนิยมตำแหน่งที่ 3 หรือไม่
  1. อุณหภูมิของของเหลว
  • อุณหภูมิมาตรฐาน: ไฮโดรมิเตอร์ส่วนใหญ่ถูกสอบเทียบที่อุณหภูมิมาตรฐาน (เช่น 20 องศาเซลเซียส)
  • อุณหภูมิที่แตกต่าง: หากอุณหภูมิของของเหลวที่วัดแตกต่างจากอุณหภูมิมาตรฐาน อาจต้องทำการปรับค่าความหนาแน่นที่อ่านได้ หรือใช้ตารางการแก้ไข
  1. ความแม่นยำ
  • ระดับความแม่นยำ: เลือกไฮโดรมิเตอร์ที่มีความแม่นยำตามที่ต้องการ เช่น สำหรับงานวิจัยอาจต้องการความแม่นยำสูงกว่างานทั่วไป
  • การสอบเทียบ: ควรเลือกซื้อไฮโดรมิเตอร์จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และมีการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ
  1. วัสดุที่ใช้ผลิต
  • แก้ว: ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด แต่แตกง่าย
  • พลาสติก: ทนทานต่อการแตกหัก แต่ไม่ทนต่อสารเคมีบางชนิด

วิธีการดูแลรักษาไฮโดรมิเตอร์

ทำความสะอาด

  • หลังการใช้งานทุกครั้ง: ควรล้างไฮโดรมิเตอร์ด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
  • หลีกเลี่ยงสารเคมี: อย่าใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนในการทำความสะอาด
  • สำหรับไฮโดรมิเตอร์ที่ใช้กับสารเคมี: ควรล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะทางและล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง

เก็บรักษา

  • ที่แห้งและเย็น: เก็บในที่แห้งและมีอุณหภูมิคงที่ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
  • ในแนวตั้ง: เก็บในตำแหน่งตั้งตรง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักถ่วงเคลื่อนที่และทำให้เกล็ดแบ่งระดับเสียหาย
  • ในกล่อง: เก็บในกล่องที่ออกแบบมาสำหรับเก็บไฮโดรมิเตอร์ เพื่อป้องกันการกระแทกและฝุ่นละออง

หลีกเลี่ยงการตกกระแทก

  • ระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายและใช้งานไฮโดรมิเตอร์ การตกกระแทกอาจทำให้หลอดแก้วแตกหรือเกล็ดแบ่งระดับเสียหาย

หลีกเลี่ยงการขีดข่วน

  • อย่าขีดข่วนหรือทำรอยบนผิวของไฮโดรมิเตอร์ เพราะอาจทำให้ค่าที่อ่านได้ไม่ถูกต้อง

สอบเทียบเป็นประจำ

  • นำไฮโดรมิเตอร์ไปสอบเทียบเป็นประจำตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าค่าที่อ่านได้มีความแม่นยำ

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • อย่าดัดแปลง: ห้ามดัดแปลงไฮโดรมิเตอร์โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียหายและใช้งานไม่ได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีกัดกร่อน: สารเคมีบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับวัสดุที่ใช้ทำไฮโดรมิเตอร์ ทำให้เสียหายได้
  • อ่านคู่มือการใช้งาน: ควรอ่านคู่มือการใช้งานของไฮโดรมิเตอร์แต่ละชนิดอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบวิธีการใช้งานและการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

 

 

28 October 2024

Viewed 35 time

Engine by shopup.com